วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง

ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยพิชิตภูกระดึง


เริ่มต้นจากการเดินทางซึ่งฉันไปกับเพื่อนๆ ไปกัน 9 คน ไปขึ้นรถโดยสารที่ขอนแก่นนั่งรถขอนแก่น-เลย ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เมื่อถึงหลังจากนั้นก็ไปพักที่บ้านเพื่อนที่อยู่ภูกระดึง นอนอยู่บ้านเพื่อนคืนนึงก่อน เมื่อมาถึงบ้านเพื่อนรู้สึกว่าหนาวมาก หนาวกว่าที่อยู่สารคาม

เช้าวันรุ่งขึ้นของการขึ้นภูกระดึง ตื่นแต่เช้ามากออกจากบ้านเพื่อนประมาณ 07.30 น. เมื่อไปถึงอุทยานก็เริ่มถ่ายรูปกันเลย ถ่ายทุกป้าย เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็ไปที่ศูนย์บริการรับหาบของ ซึ่งจ้างลูกหาบหาบกระเป๋าเพราะว่าคงแบกขึ้นไม่ไหว เมื่อจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเดินทางขึ้นภูกระดึง

ระยะทางในการขึ้นภูกระดึงประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นทางขึ้นเขาประมาณ 6 กิโลเมตร และทางเดินเท้า (ทางราบ) ประมาณ 3 กิโลเมตร ฉันและเพื่อนๆ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งนานพอสมควร ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นนั้น จะมีที่พักแต่ละชั้น ซึ่งเขาเรียกกันว่า "ซำ" ซึ่งภูกระดึงนั้นมีทั้งหมด 10 ซำ 

ซึ่งซำแรกก็คือ ซำแฮก ซึ่งมีระยะทางห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 1,000 เมตร เป็นซำที่โหดมาก ทางขึ้นเป็นทางขรุขระมีทั้งหินและบรรไดและทางก็ลาดชันมาก เมื่อขึ้นไปถึงซำแฮกก็ซื้อน้ำดื่มทันที และน้ำที่ซื้อนั้นแพงมาก ที่แพงก็เพราะว่าแม่ค้าพ่อค้าก็ต้องจ้างลูกหาบหาบของขึ้นมาขายเช่นกัน เมื่อพักหายเหนื่อยแล้วก็เดินทางต่อ ซำที่โหดที่สุดสำหรับฉันคิดว่า ซำแรกและซำสุดท้าย ซึ่งซำสุดท้ายจะเป็นซำที่ปีนขึ้นเขาจริงๆ สูงและชันมาก น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปในการเดินทางขึ้นภูกระดึงเพราะว่าเหนื่อยกับการเดินทางและมือก็ต้องคอยจับต้นไม้บ้าง จับหินบ้าง จับราวเหล็กที่ทางอุทยานทำไว้บ้าง เมื่อไปถึง หลังแปก้อต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร

เมื่อถึงที่พักก็รอรับกระเป๋าจากลูกหาบ และไปกางเต้นท์ตรงลานที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ เมื่อกางเต้นท์เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำ ซึ่งน้ำนั้นเย็นมากๆ แถมเพื่อนโดนทากกัดอีก เป็นการอาบน้ำที่ลำบากมาก อาบเสร็จแล้วก็ไปกินข้าว ซึ่งข้าวอยู่บนภูจานนึงก็เกือบห้าสิบบาท ของทุกอย่างที่อยู่บนภูกระดึงแพงหมดแต่นักท่องเที่ยวก็เข้าใจว่าที่แพงนั้นเพราะอะไร หลังจากนั้นก็เข้าเต้นท์นอน ซึ่งหนาวมาก ตื่นเช้ามาเต้นท์เปียกหมดเลย เพราะว่าไม่ได้เช่าเต้นท์กับทางอุทยาน เนื่องจากเพื่อนมีญาติอยู่บนภูกระดึงก็เลยได้ทั้งเต้นท์และผ้าห่ม ตอนแรกพูดกันว่าจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ไม่มีใครลุก  เพราะว่าแต่ละคนลุกไม่ไหว ฉันปวดขามาก ปวดจนร้องไห้ เมื่อตื่นเช้าเราก็พากันกางเต้นท์ใหม่และก็หาผ้าใบมาคุมเต้นท์ไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็พากันอาบน้ำ ทานข้าว และก็ออกเดินทาง ซึ่งเราจะพากันไปเที่ยว ผาหล่มสัก ไปดูพระอาทิตย์ตก

ระยะทางในการเดินจากที่พักไปผาหล่มสักนั้น ประมาณ 9 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างทางไปก็จะผ่านผาต่างๆ ดังนี้ 


















ยังเหลืออีกประมาณ สองสามผา ที่ไม่ได้ถ่ายรูป เมื่อมาถึงผาหล่มสักก็พากันถ่ายรูปและนั่งรอดูพระอาทิตย์ตก 


หลังจากที่ดูพระอาทิตย์ตกแล้วก็พากันเดินกลับที่พัก ซึ่งมืดมากระหว่างทางก็ได้ยินเสียงสัตว์ต่างๆ น่ากลัวแต่ก็ยังดีที่มีคนเดินด้วยเยอะอยู่ ไปถึงที่พักประมาณ 21.30 น. ก็พากันอาบน้ำแล้วก็ทานข้าว แล้วก็กลับมานอนที่เต้นท์

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็พากันเก็บของเก็บเต้นท์เพื่อเตรียมตัวกลับ ขากลับไม่ได้ฝากของให้ลูกหาบต้องแบกลงเอาเอง เสียดายที่ไปเที่ยวยังไม่หมด เหลือน้ำตกที่ยังไม่ไป ขากลับลงมาถึงประมาณ 16.00 น. ก็กลับไปพักที่บ้านเพื่อน นอนบ้านเพื่อนคืนนึงพอเช้าแล้วค่อยกลับหมาสารคาม

การเดินทางครั้งนี้ได้อะไรหลายๆอย่าง เช่น การวัดความสามารถของตัวเอง  การดูแลซึ่งกันและกันของเพื่อน  การได้สัมผัสและเข้าถึงกับธรรมชาติ  ได้มุมมองความคิดในหลายๆด้านเพิ่มขึ้น ได้ปลดปล่อยความกังวลใจ และความไม่สบายใจต่างๆ เป็นต้น  ที่สำคัญ ได้ความรักกลับมาด้วย ^_^




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น